ลูกหนี้เมาส์ กระจาย หน้าซีบอกซ์ คุยกันสดๆ เลย ขอรับ

วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554

แก้ไขปัญหาหนี้สิน (ศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ)

แก้ไขปัญหาหนี้สิน (ศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ)ใครเป็นหนี้บัตรเครดิตลองอ่านดูครับเผื่อ ว่าจะมีประโยชน์บ้างกระผมนาย ศุภกฤต ถนอมญาติ( ชื่อสมมุติและนามสมมุติ )ผมทำงานอยู่ตำแหน่งผจก.บริษัทที่มั่นคงแห่งหนึ่ง มีเงินเดือนมากกว่า 50,000 บาท ผมเริ่มใช้บัตรเครดิตตั้งแต่เริ่มทำงานครับ ใช้ซื้อของที่อยากได้ ใช้เงินล่วงหน้าครับ เริ่มมีปัญหาเคลียไม่หมดต้องผ่อนคั่นต่ำประมาณ 12,000 บาท ครับ สูงที่สุด 900,000 บาท · สาเหตุที่ผมต้องเป็นหนี้คือ ใช้เงินเกินตัว ตามความอยาก ทำตัวตามสังคม ต้นทุนชีวิตสูง ต้องมีมือถือ,บ้าน,รถ,แฟน,สังคม ไม่รู้จักบริหารการเงิน · ผมเริ่มศึกษาวิธีการจะปลดหนี้ อ่านหนังสือ,ค้นใน Web วิเคราะห์ผลกระทบต่างๆและวิธีการ แต่ก่อนอื่นผมคิดว่าต้องจัดการกับตัวเองและครอบครัว ต้องยอมรับว่าเราเป็นหนี้ ลดค่าใช้จ่ายทุกชนิด หารายได้เสริม · ก่อนรู้จักศูนย์ประสานงานลูกหนี้ ผมเริ่มแผนการปลดหนี้ด้วยตนเองo เขียนแผนการชำระหนี้ทั้งหมด อธิบาย สาเหตุที่ผ่อนได้น้อยลง ชี้แจงรายรับรายจ่าย(ทั้งๆที่ไม่น่าจะเป็นไปได้)ผ่อนต่อเดือนประมาณ 2.3% ของยอดหนี้o หยุดผ่อนทุกใบ เหลือใช้แค่ใบเดียว Faxหรือส่งจม.เสนอแผนผ่อนผันo หลังจากหยุดสองเดือนเริ่มผ่อนขั้นต่ำ 2.3%o ต้องกันเงินใช้จ่ายส่วนตัวก่อน ไม่เคยทำปกติจ่ายบัตรเครดิต,ค่าน้ำ,ค่าไฟ ก่อนครับ (พึ่งเริ่มส่งเงินให้แม่ได้ทั้งๆที่ไม่เคยให้) ที่เหลือค่อยนำมาผ่อนตามสัดส่วนที่เหลือแต่ไม่เกิน 2.3%o ยอมโดนทวงหนีไม่อาย บางทีโดนทวงถึงในห้องผจก. เป็นเฉพาะช่วงแรกๆ หลังจากนั้นอ้างแผนที่ส่งไปให้ ไม่ต้องหนี · ผมรู้จักศูนย์ประสานงานลูกหนี้โดยบังเอิญ เข้าไปยื่นเอกสาร ประวัติหนี้ทั้งหมด และรอพบที่ปรึกษาบอกขั้นตอนและหลักการผ่อนชำระทั้งหมด ไม่น่าเชื่อมันคือภาพที่ผมเขียนไว้ แผนที่เขียนขอผ่อนบัตรเครดิต เหมือนฝันเป็นจริง มัน เหมือนชี้ทางออกให้ผมกลับมามั่นใจเพิ่มอีกo ทางศูนย์จะคำนวณภาระและยอดการผ่อนชำระ เหมือนตอนคุณกู้เลยครับo แนะนำขั้นตอนการยื่นและการเจรจากับเจ้าหนี้หรือตัวแทนเจ้าหนี้สามารถหยุด ชำระเก็บเงินสดไว้จ่ายหลังยื่นแผนผ่าน (ในอัตราที่ไม่สูง ไม่เสียดอก) · ผมอยากฝากเรื่องของการเจรจากับเจ้าหนี้เมื่อถูกทวงถาม o จำไว้ว่าคนทวงหนี้ก็คือลูกจ้าง ถ้าเขาโทรมาแล้วพูดหวานๆ คงไม่มีใครจ่าย เทปคำพูดหรือผลงานก็ไม่มี เขาอาจตกงานได้ ดังนั้นถ้าเขาโทรมาแล้วพูดกระแทกใส่หรือว่ากล่าวเรา จงสงสารเขามากๆ เพราะชีวิตเขาต้องเครียดมากๆ ทุกวัน อย่าต่อล้อต่อเถียงหรืออธิยายใดๆ เขาทำงาน ต้องเห็นใจ ปล่อยเขาพูดแล้ว บอกว่าไม่สะดวกก็พอo จำไว้ว่าเราไม่ได้หนีหนี้ แต่เรากำลังจะใช้หนี้ไม่ใช่ใช้ดอก และถ้าไม่ทำเช่นนี้วันนึงก็ต้องหนีจริงๆ NPL · ผมมีคำแนะนำเล็กน้อย ถ้าอยากปลดหนี้ออกจากชีวิต ควรจะทำอะไรบ้าง อะไรที่จะทำให้สำเร็จความเชื่อมั่นว่าต้องทำได้ ไม่จำเป็นว่าเรื่องที่เราตั้งเป้าหมายต้องเป็นเรื่องที่น่าจะเป็นไปได้ มีหลักฐาน มีคนเคยทำ · ครั้งแรกที่ผมเขียนแผนขอผ่อนผัน มีคนทักท้วง แต่ผมก็ยืนยันว่าทำได้· มีคนในครอบครัวกังวลเรื่องถูกยึดหรือศาลคงไม่ยอมถ้าจะขอเลื่อนหรือผ่อนต่ำ มากๆ ผมบอกกับคนในครัวว่าทำได้ผมมั่นใจ (จริงๆไม้ตามคือยอมล้มละลาย)· ผมพบปัญหาหลายเรื่อง ลางานบ่อยๆ ถูกทนายโกง บางครั้งถึงขั้นถูกศาลตัดสินแล้วทนายไม่ไปต้องไปเจรจากับธนาคารขอผ่อน ศาลบางท่านเอื้อประโยชน์ให้กับทางบัตรเครดิต แต่ผมก็ผ่านมาได้ จนมาพบกับศูนย์( ต้องมีความเชื่อ กล้าทำตามความเชื่อนั้น )· สุดท้ายต้องขอขอบคุณทางศูนย์ประสานงานลูกหนี้มากๆ มีประโยชน์ต่อส่วนรวมมากๆ o ทำให้ชีวิตหลายๆคนดีขึ้น ผมเคยคุยกับลูกหนี้หลายๆคน เขากังวลมากๆ เชื่อไหม เขานอนไม่หลับ คิดแต่เรื่องหนี้ เป็นโรคเครียด สุขภาพไม่ดี พอผมเล่าเรื่องผมให้ฟัง และชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมีทางออกและแก้ไขได้ ขอแนะนำธรรมมะนิดเดียว เคยเห็นลิงไหมครับเวลาโดนคนแกล้งเอากะปิมาป้ายมัน มันจะพยามถูมันจนมือแถบขาด เพราะว่ามันไม่สามารถบังคับจิตใจมันที่เกียจกะปิได้ แต่เราเป็นคน ต้องอย่าให้ความคิดต่างๆมาทำร้ายเราได้ จำไว้ว่าไม่มีใครทำร้ายเราได้นอกจากตัวเราที่สั่งให้ความคิดมาทำร้ายจิตใจ เราเอง o อยากให้ภาครัฐมาช่วยทางศูนย์จริงๆครับ ต่อสู้มาเองตลอด ผมจำได้มีหลายคนอาสาช่วย มีของได้มาจากการบริจาคและค่าสมัคร ยังมีอีกหลายธนาคารที่ยังไม่ยอมเจรจา (แจ้งไปทางธนาคารแห่งชาติและกระทรวงการคลัง )เชื่อไหม เขาแค่ประชุมและแจ้งธนาคารรับทราบ ผมสอบถามทั้งสองที่ มีหน่วยงานช่วยลูกหนี้ แต่ทั้งสองทีมีลูกหนี้ที่มาขอความช่วยเหลือแค่รายเดียวไม่สำเร็จเพราะเกรงใจ ธนาคารนี่ละครับเมืองไทยo ธนาคารและเจ้าของบัตรเครดิต ลูกหนี้กำลังหาวิธีการชำระหนี้ทางเจ้าหนี้ เรากำลังทำให้เจ้าขอบัตรเครดิตได้เงินคืนจริงๆ ไม่งั้นธนาคารอาจเสียเงินให้บริษัททวงหนี้ แล้วพอเริ่มผ่อนไม่นานลูกหนี้ก็ต้องยอมถูกฟ้อง ล้มละลาย ในหนี้สินทั้งหมดจะมีอยู่ประมาณ 30-40 % ที่ใช้หนี้บางส่วน อีก 60-70% เขาไม่สามารถใช้ได้ ยอมฟ้อง คนที่ได้เต็มๆคือบริษัททวงหนี้ครับsuprakite@hotmail.co.th · ใครสนใจต้องการให้ศูนย์ชวยหลือศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ (02-3191161, 02-3191162,. 02-3191163, 02-3191164)785 อาคารรฐมศร ถ.พระรามเก้า บางกะปิ ห้วยขวาง กทม. 10320คุณ กัลยาณี รุทระกาญฐน์เลขาธิการศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติองค์กรสาธารณประโยชน์

โดย: ศุภกฤต ถนอมญาติ
ตั้งเมื่อ: 24 มี.ค. 10
แท็ก: หนี้สิน


ที่มา : หมวด » ร้องทุกข์ ประชาสัมพันธ์ » ประชาสัมพันธ์ » แก้ไขปัญหาหนี้สิน (ศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ)

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554


นางกัลยาณี รุทระกาญจน์ เลขาธิการศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เพื่อร้องเรียนการดำเนินงานบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) เรื่องความโปร่งใสในการฟ้องล้มละลายลูกหนี้ โดยมีการยึดทรัพย์สินไปโดยไม่ชอบ และขัดกับคำพิพากษาของศาลแพ่งที่ให้ขายทอดตลาดสินทรัพย์ แต่บสท. กลับยึดไปขายเอง ทำให้ราคาสินทรัพย์ต่ำไม่คุ้มมูลหนี้ ทำให้นอกจากลูกหนี้ถูกยึดทรัพย์ และต้องชำระหนี้เพิ่มเติม ยังรวมถึงถูกฟ้องล้มละลายด้วย

ขณะเดียวกันได้เตรียมการเชิญชวนลูกหนี้ที่ถูกฟ้องล้มละลายอย่างไม่เป็น ธรรมมารวมตัว เพื่อที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีมหาชนและคดีแพ่งกับบสท. และนายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ อดีตกรรมการผู้จัดการบสท.

“มีกรณีตัวอย่างคดีที่ลูกหนี้ฟ้องชนะบสท. มาแล้ว จากจำนวนลูกหนี้ ที่โอนจากธนาคารมาให้บสท. 1.5 หมื่นราย แต่บสท. ส่งฟ้องล้มละลาย 8,000-9,000 ราย ซึ่งถือว่าการทำงานของบสท.ล้มเหลว ทั้งที่การ จัดตั้งบสท. เพื่อจะช่วยให้ลูกหนี้ ฟื้นตัวได้จากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่เป็นการซ้ำเติมลูกหนี้” นางกัลยาณี กล่าว


นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มลูกหนี้ขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ที่ถูกขายให้กองทุนต่างชาติไปแล้ว ที่ถูกยึดทรัพย์ไปแล้ว หรือกำลังถูกฟ้องล้มละลาย หรือถูกศาลมีคำสั่งล้มละลายไปแล้ว มาลงชื่อเพื่อรวมตัวกันเพื่อที่จะทวงสิทธิคืนจำนวนมาก โดยศูนย์ จะรวบรวมข้อมูลเอกสารหลักฐานเพื่อรวมกันดำเนินการฟ้องคดีมหาชน ทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อกองทุนต่างชาติ และบสท. เพื่อเรียกทรัพย์และสิทธิคืน

รวมทั้งรวบรวมรายชื่อเสนอรัฐบาล เพื่อขอให้เจ้าหนี้ระงับการบังคับคดีฟ้องล้มละลาย จนกว่าคดีอาญาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฟ้องกองทุนต่างชาติจะดำเนินการเสร็จสิ้น และขอให้รัฐบาลอายัดทรัพย์ของกองทุนต่างชาติ ที่ได้ประมูลซื้อสินทรัพย์ 56 ไฟแนนซ์ที่ปิดกิจการไปจากปรส. เป็นการป้องกันเอาเงินออกนอกประเทศ

ที่มา :  http://www.easycashservice.com/Bnew31.html

ร้องธปท.หย่าศึกทวงหนี้

ศูนย์ฯ ลูกหนี้แห่งชาติ  ร้องธปท. เชิญเจ้าหนี้แบงก์- นันแบงก์ร่วมแก้ไขหนี้ทั้งวงจร
นาง กัลยาณี รุทระกาญจน์ เลขาธิการศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ศูนย์ฯ ได้ประสานงานกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อร่วมประชุมและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาของลูกหนี้ โดยขอให้ธปท.เชิญเจ้าหนี้ทั้งธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นันแบงก์) เข้าประชุมด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากที่ผ่านมาพบปัญหาสถาบันการเงินขายบัญชีลูกหนี้ให้กับบริษัทติดตาม ทวงหนี้ไปแล้วในราคาประมาณ 15-20% ของมูลหนี้ ซึ่งพบว่าการเข้าไปเจรจากับบริษัทที่รับซื้อหนี้นั้น ทำให้การแก้ไขหนี้ทำได้ยากมากขึ้น
นางกัลยาณี กล่าวว่า การแก้ไขหนี้ภาคประชาชนจะต้องแก้ไขทั้งหนี้ในระบบและนอกระบบ และให้ครอบคลุมหนี้ของสมาชิกใน ครอบครัว รวมถึงภาระหนี้ค้ำประกันด้วย หากรัฐบาลแก้ไขหนี้นอกระบบมาอยู่ในระบบ ขณะที่ลูกหนี้ที่เป็นหนี้ในระบบและติดบัญชีดำของเครดิตบูโร รวมทั้งไม่มีความสามารถใช้หนี้ ในที่สุดก็ดิ้นไม่หลุดก็ต้องไปหาหนี้นอกระบบอีก
หลักการปรับโครงสร้างหนี้จะต้องปรับหนี้ตามความสามารถของลูกหนี้ ที่แท้จริง ยกตัวอย่าง ลูกหนี้รายหนึ่งมีหนี้บัตรเครดิต 30 บัตร มีเงินเดือน 1.5 หมื่นบาท แต่ละบัตรให้ผ่อนชำระขั้นต่ำ 2,000 บาท ลูกหนี้ก็ไม่สามารถที่จะผ่อนชำระได้ ดังนั้นต้องแจ้งให้เจ้าหนี้ทุกราย รับรู้ว่า ลูกหนี้มีรายได้มีหลักทรัพย์อะไร และเฉลี่ยแล้วเจ้าหนี้แต่ละรายได้เท่าไร
“โดยหลักการแล้วถ้าลูกหนี้มีเงินเดือน 1 หมื่นบาท จะมีความสามารถการชำระหนี้ได้ประมาณ 45% ส่วนที่เหลือ 55% จะเป็นเงินที่ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน และหากเจ้าหนี้ต่างคนต่างฟ้องร้องให้ลูกหนี้ล้มละลาย เจ้าหนี้แต่ละรายก็อาจจะไม่ได้อะไรและเป็นการตัดอนาคตลูกหนี้อาจจะถูกไล่ออก จากงาน ไม่มีรายได้ และก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมา” นางกัลยาณีกล่าว
สำหรับความคืบหน้าโครงการ “ยิ้มรับ..ปรับหนี้ที่อยู่อาศัย” ที่ศูนย์ประสานงานลูกหนี้แห่งชาติ ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อนจากภาระหนี้สินด้านที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นทางออกสำหรับผู้ที่มีปัญหาบ้านกำลังจะถูกยึด ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ถูกฟ้องล้มละลาย ซึ่งให้ลูกหนี้มาจดทะเบียนระหว่างวันที่ 1-30 ธ.ค.2552 มีไม่กี่พันรายจาก ที่ประมาณการว่ามีประชาชนที่มีปัญหาหนี้เงินกู้ซื้อบ้านและอยู่ระหว่างการ ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี 7 หมื่นราย
แนวทางการแก้ไข กทม.อาจ ขยายระยะเวลาการลงทะเบียนและต้องมีการประชาสัมพันธ์มาก กว่านี้ หรืออาจจะให้ธนาคารออมสินช่วยแนะนำประสานงาน มาต่อที่กทม.

ที่มา :  http://money.impaqmsn.com/content.aspx?id=19866&ch=227

ต่อสู้อย่างไร จึงชนะ พี่เค๊าเล่าเรื่อง

  • เหยื่อฟองสบู่แตก ปี 2540 - เรื่องนี้เป็นเรื่องของหลานชาย ค่ะ แต่ก็เกี่ยวกับเราเต็มๆได้เริ่มกู้เพื่อที่อยู่อาศัย ก่อนหน้าแบงค์ชาติประกาศ งดสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ไม่กี่วัน ไม่มีใครร...
    15 ปีที่ผ่านมา